
ปัจจุบันประเภท สีทาบ้าน นั้นมีให้เราเลือกได้หลายแบบ หลายยี่ห้อซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีการออกแบบคุณสมบัติประเภทของการใช้สีที่หลากหลาย ถ้าเราใช้ผิดประเภทขึ้นมา อาจเกิดปัญหากับผลงานหรือผนังบ้านเราไม่ใช่น้อย ดังนั้นก่อนจะลงมือทาบ้านหรือ D.I.Y. เฟอร์นิเจอร์ อย่างน้อยเราควรศึกษา ประเภทของสีแต่ละชนิดว่ามีคุณสมบัติและเหมาะสมกับงานประเภทไหน วันนี้เราจึงมีประเภทสีมาให้คุณได้ทำความเข้าใจ และศึกษากัน
ประเภทของสีทาบ้าน
1.สีทารองพื้น

เป็นสีที่ทารองพื้นหลังจากฉาบปูนเสร็จ ก่อนที่จะทาสีทับจริงภายในและภายนอก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะของสีทับหน้าหรือวัสดุที่ฉาบให้ดียิ่งขึ้น สีทารองพื้น จะมีอยู่ 2 ชนิด คือ สีทารองพื้นปูนใหม่ และ สีทารองพื้นปูนเก่า จะนำไปใช้ต่างกัน
- สีทารองพื้นปูนใหม่ จะมีเนื้อสีขาว สูตรน้ำ ไม่มีกลิ่นฉุน ทาง่ายและราคาถูก สีรองพื้นปูนใหม่จะช่วยปกป้องการเกิดรอยด่างและช่วยเรื่องการยึดเกาะที่ดีกับผนังฉาบปูนและสีทาทับหน้าใช้สำหรับทาผนังฉาบปูนใหม่เท่านั้น เพื่อปกป้องรอยด่างที่จะเกิดขึ้นหลังจากทาสี เนื่องจากในช่วงแรกหลังจากการฉาบผนังใหม่ ปูนฉาบอาจจะมีการระบายความชื้นออกมา
- สีทารองพื้นปูนเก่า แบ่งเป็น 2 สูตร คือ สูตรน้ำ มีลักษณะเป็นสีขาว และสูตรน้ำมัน มีลักษณะเป็นสีใส และกลิ่นฉุนกว่าสูตรน้ำ สีรองพื้นปูนเก่าเหมาะสำหรับการใช้ทางรองพื้นผนังฉาบปูนที่ผ่านการทาสีหรือใช้งานมานานแล้ว ซึ่งอาจมีการกัดกร่อนของสีทับหน้าเดิม มีเชื้อรา หรือตะไคร่น้ำ โดยทำการขูดสีทับหน้าเดิม ล้างทำความสะอาดสิ่งสกปรกออกก่อน รอให้แห้งสนิท แล้วจึงทาสีรองพื้นปูนเก่าก่อนที่จะทาสีทับหน้าตาม
2.สีทาภายนอก

สีทาภายนอกโดยมากแล้วมักจะเป็นสีอะคิลิค เป็นที่มีความทนนาน กันความร้อนและแสงแดดได้เป็นอย่างดี ไม่หลุดลอกหรือซีดจางได้ง่าย รวมถึงป้องกันเรื่องความชื้นและเชื้อรา ควรเลือกสีภายนอกที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ปกปิดรอยร้าวได้ดีเยี่ยม ทำความสะอาดคราบสกปรกต่าง ๆ ได้ง่ายโดยไม่ทำให้เนื้อสีนั้นเสียหาย
3. สีทาภายใน

เมื่อมองด้วยตาจะเห็นว่าลักษณะเหมือนกับสีทาภายนอก แต่สีทาภายในจะเป็นเนื้อสีเกือบ 100% โดยไม่มีส่วนผสมของสารอื่น แต่สีทาภายในบางยี่ห้ออาจมีเพิ่มสารบางชนิดเข้าไปบ้าง เพื่อเพิ่มคุณสมบัติพิเศษ เช่น ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับผนังเมื่อทาทับสีรองพื้น ช่วยเรื่องการเช็ดทำความสะอาดคราบน้ำ คราบสิ่งสกปรกได้ง่าย
4. สีทาไม้

เป็นสีที่ใช้สำหรับทาส่วนต่าง ๆ ของบ้าน หรือเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้โดยเฉพาะ ช่วยรักษาเนื้อไม้ให้คงทนไม่ผุกร่อน โดยเฉพาะงานไม้ที่ต้องอยู่ภายนอก ที่ต้องตากแดด ทนฝน สีทาไม้นี้แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ สีรองพื้น และสีทาไม้จริง จึงควรเลือกสีให้เหมาะกับการใช้งาน จะสามารถช่วยยืดอายุของไม้ให้อยู่ได้นานขึ้นด้วย
5. สีน้ำมัน

สีน้ำมัน เป็นสีที่เมื่อทาแล้วจะมีความเงางาม ทำความสะอาดง่าย นิยมใช้ทาไม้ ทาเหล็ก และยังสามารถทาปูนหรือคอนกรีตได้ แต่สีแห้งช้าใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นสีที่ใช้น้ำมันหรือทินเนอร์เป็นตัวทำละลาย
6. สีทาหลังคา

เป็นสีที่ใช้ทากระเบื้องหลังคา ส่วนผสมของสีจึงมีสารที่ช่วยสะท้อนรังสียูวี ตัวการที่ทำให้หลังคาซีดจาง และสีในบางรุ่นยังมีการผสมสารที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนออกจากหลังคาอีกด้วย เพื่อช่วยลดความร้อนจากหลังคาที่จะเข้าสู่ภายในตัวบ้าน
7. สีกันสนิม

คือสีเพื่อกันสนิม และยังสามารถเป็นสีทารองพื้นเพื่อให้สีที่ทาทับเคลือบติดกับพื้นผิวของวัสดุที่เป็นเหล็กได้ จึงนิยมใช้ทาก่อนที่จะลงสีน้ำมันทับ สีกันสนิมที่ดีจะช่วยชะลอระยะเวลาการเกิดสนิมหรือสามารถช่วยให้พื้นผิวที่เป็นเหล็กไม่เกิดสนิมได้
ข้อแนะนำในเลือกประเภท สีทาบ้าน ต่าง ๆ
การเลือกซื้อสีทาภายนอก
- ทนต่อสภาพอากาศ ทั้งแดด ฝน แรงรม ความร้อนและความชื้นได้ดี
- สามารถปิดรอยร้าว รอยแตกของผนังได้
- สามารถเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกได้ง่าย ทนต่อแรงขัดถู เนื้อสีไม่หลุดลอก
- ทนต่อความร้อน ไม่หลุดล่อน และสามารถสะท้อนความร้อนได้ ไม่ทำให้บ้านร้อน
การเลือกซื้อสีทาภายใน
- เนื้อสีต้องมีความละเอียดและเงา
- สามารถเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกได้ง่าย ทนต่อแรงขัดถู เนื้อสีไม่หลุดลอก
- สามารถป้องกันเชื้อรา แบคทีเรียต่าง ๆ ได้
- ไม่มีกลิ่นฉุน หรือสารระเหยที่เป็นอันตรายต่อผู้อาศัย
การเลือกซื้อสีทารองพื้น
- เนื้อสีต้องมีความยืดหยุ่นสูง ช่วยประสานรอยแตกร้าวได้ดี
- ป้องกันน้ำซึมเข้าผนังได้ดี ป้องกันคราบด่าง และลดปัญหาสีลอกล่อน
- ฟิล์มสีต้องทนต่อสภาพอากาศ ไม่ซีดจาง สีไม่พอง ไม่ลอกล่อนกลิ่น
- ต้องไม่ฉุน ปราศจากสารปรอท ตะกั่ว โลหะหนัก ที่เป็นอันตรายต่าง ๆ
ก็พอจะทราบถึง ประเภท สีทาบ้าน กันบ้างแล้วทีนี้หลายคนเลือกสีทาบ้านได้ง่ายขึ้น และเลือกสีที่มีคุณภาพ ทำให้บ้านสีสวยงาม สีติดทนนานอย่างแน่นอน
ขอบคุณรูปจาก
www.dohome.co.th
www.homepro.co.th
อ่านต่อที่ ตกแต่งภายใน