ประตู ส่วนประกอบของบ้านในการเชื่อมต่อพื้นที่ทุกห้องไว้ด้วยกัน ซึ่งมีหน้าตาหลากหลาย แถมเนื้อวัสดุก็มีคุณสมบัติมากมาย นั่นเพราะวัสดุที่เลือกใช้ทำประตู เป็นองค์ประกอบสำคัญ ทำให้ผลิตออกมามีผลต่อภาพลักษณ์เมื่อนำไปใช้ตกแต่งบ้าน
1.ประตูไม้ HDF (High Density Fiber)
2.ประตูยูพีวีซี (uPVC)
3.ประตูไฟเบอร์กลาส (Fiberglass)
4.ประตูเหล็ก
5.ประตูอะลูมิเนียม
6.บทสรุป
ประตูไม้ HDF (High Density Fiber)
ประตูไม้ หรือ ประตูแผ่นใยไม้ ที่เรารู้จักกันว่า ประตู HDF พัมนามาจากการนำเส้นใยธรรมชาติผสมกับกาวสังเคราะห์ชนิดพิเศษ อัดด้วยแรงดันและความร้อนสูง เพื่อให้เส้นใยประสานเป็นเนื้อเดียวกัน โครงสร้างของบานประตูจึงแข็งแรงเหมือนไม้จริง เหมาะสำหรับใช้เป็นประตูภายใน ซึ่งประตูชนิดนี้กำลังเป็นที่นิยมมากสำหรับบ้านยุคใหม่ เพราะคุณภาพดีกว่าประตูไม้อัด MDF ในอดีต ไม่มีปัญหาเรื่องปลวก มอด แมลง ทนความชื้นได้ดี ใช้ร่วมกับห้องน้ำที่มีการแยกส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจน และระบายอากาศได้ดี แต่ประตูชนิดนี้ยังไม่เหมาะกับการใช้ภายนอก ควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดและฝน
ประตูยูพีวีซี (uPVC)
ประตูยูพีวีซี (uPVC) หรือ ไวนิล (Vinyl) พัฒนามาจากประตูพีวีซี (PVC) ผลิตจากโพลีเมอร์ ผ่านกระบวนการอัดรีดด้วยความร้อนสูง เป็นแผ่นเรียบอัดฟิล์มแล้วปั้มขึ้นรูปตามแบบ คุณสมบัติเด่นของ uPVC คือ เป็นวัสดุไม่ลามไฟ เป็นฉนวนกันไฟฟ้าได้ดี ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ หรือแม้แต่ไอเค็มจากทะเล ตัววัสดุไม่หด หรือ ขยาย ทนต่อแรงกระแทก สามารถกันน้ำได้ 100 % กันปลวก และแมลง กันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี ติดตั้งมุ้งลวดทับได้ จึงเหมาะกับการใช้งานภายใน แต่ไม่แนะนำให้ใช้งานภายนอกเต็มที่แบบไม่มีหลังคาบัง
ประตูไฟเบอร์กลาส (Fiberglass)
ประตูชนิดนี้นิยมใช้ในจุดที่ต้องการให้บ้านมีความโปร่งตาน่ามอง ผลิตจากโพลีเอสเตอร์เรซิ่นเสริมใยแก้ว นำมาหล่อขึ้นรูป ทำให้มีความแข็งแรงของวัสดุมากขึ้น ป้องกันการกระแทกได้ดี เป็นฉนวนป้องกันความร้อนได้ สามารถปรับไสและย้อมสีได้เสมือนไม้จริง
โครงสร้างภายในตัวบานมักจะมีส่วนประกอบของ PS Foam และ PU injection foam ป้องกันเสียง บานไม่ยืดขยายตัว ไม่หด ไม่บิดงอตามสภาพอากาศ มีรูปแบบให้เลือกทั้งบานทึบ บานช่องเกล็ด บานลูกฟัก ใส่คู่กับกระจกได้ กันปลวก ทนแดด กันน้ำได้ 100 % ไม่เปื่อยยุ่ย แช่น้ำได้ จึงใช้ได้กับห้องน้ำ เหมาะสำหรับใช้ภายนอกมากที่สุด หรือใช้ในงานภายในสำหรับกั้นแบ่งระหว่างห้อง ตู้ ห้องน้ำ หรือบ้านที่มีพื้นที่น้อย ๆ ต้องการพรางตาให้ดูกว้างขึ้น
ประตูเหล็ก
ประตูเหล็ก ขึ้นชื่อว่าเหล็กแน่นอนว่าเหมาะกับงานภายนอกที่ต้องการความแข็งแกร่งมั่นคง อย่างประตูหน้าบ้าน ประตูหลังบ้าน ที่ต้องการความแข็งแรง ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง เพื่อสร้างความรู้สึกปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย การเลือกใช้ประตูเหล็กจึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการนี้ เพราะเหล็กเป็นวัสดุที่สามารถกันไฟได้ดี มีความแข็งแรงทนทาน ยากต่อการงัดแงะของโจรขโมย แต่จุดอ่อนคือต้องเคลือบป้องกันสนิม เพราะหากอยู่ในจุดที่เจอความชื้นอาจเกิดสนิมได้
ประตูอะลูมิเนียม
เนื้ออะลูมิเนียมที่ใช้ทำประตูมี 2 ประเภท คือ อะลูมิเนียมชุบสีด้วยไฟฟ้า (Anodizing) ซึ่งมี 3 สีหลักๆ ได้แก่ สีชาอ่อน สีชาเข้ม และสีดำ อีกประเภทคือ อะลูมิเนียมพ่นอบสี (Powder Coating) เป็นการพ่นและอบผงสีเคลือบบนพื้นผิว จึงทำสีได้หลายเฉด สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีกว่า แต่ราคาแอบสูงกว่าอะลูมิเนียมที่ชุบสีด้วยไฟฟ้า
ประตูอะลูมิเนียมจึงได้รับความนิยมค่อนข้างสูง เนื่องจากแข็งแรงทนทาน ไม่เป็นสนิม ดูแลรักษาง่าย ราคาปานกลาง มีให้เลือกหลายแบบ ผลิตและติดตั้งใช้เวลาไม่นาน แต่อาจเจอปัญหารั่วซึมตามรอยต่อ บุบ จากการกระแทก และมีรอยขูดขีดได้ รับความร้อนได้เร็ว การเปิดปิดมักมีเสียงดังจากโลหะกระทบกัน จึงควรเลือกใช้กับอุปกรณ์คุณภาพดีรวมถึงติดตั้งอุปกรณ์กันกระแทก
บทสรุป
ประตู ไอเท็มสำคัญของบ้านที่เราไม่ควรมองข้าม และเราไม่เพียงแต่ใส่ใจเรื่องของรูปแบบดีไซน์ของประตูเท่านั้น แต่เราต้องให้ความใส่ใจในวัสดุที่นำมาผลิตประตูด้วย ยิ่งถ้าเป็นห้องหรือพื้นที่ที่สัมผัสกับน้ำ ความชื้น ยิ่งต้องเลือกวัสดุประตูที่ทนน้ำได้ วัสดุประตูแต่ละชนิดจึงมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน จึงเป็นที่มาของการเลือกใช้วัสดุประตูที่เหมาะสมกับการใช้งาน
แหล่งที่มาของภาพ
https://www.taweesakfurniture.com
อ่านต่อที่ ตกแต่งภายใน